เรื่องไม่เหม็น.....แต่เค็มมากกว่า
บ้านหลังหนึ่งมีลูกสาวสวยอยู่ 2 คน คนโตอายุ 28 ปี แต่งงานมีครอบครัวแต่ยังไม่มีลูก และพาสามีมาอยู่ที่บ้านด้วย คนเล็กอายุ 25 ปี ยังไม่แต่งงาน โสดสวยเซ็กซ์ วันหนึ่งทั้งสามคนแม่-ลูก อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า ลูกสาวคมโตทำหน้าเคร่งเครียด ลุกลี้ ลุกลน แม่เห็นท่าทางเลยเอ่ยถามลูไปว่า
แม่ : มึงเป็นอะไรของมึง จะพูดจะทำอะไรก็ทำ กูเห็นแล้วอึดอัด
ลูกสาวคนโต : ก็...ก็...หนู...
แม่ : เฮ้ย!...จะพูดก็พูดกูหงุดหงิดแล้วนะมึง
ลูกสาวคนโต : ก็ผัวหนู...มัน...มัน...
แม่ : เอ้าอี...
ลูกสาวคนโต : ผัวหนู...หำเหม็น เหม็นมากเลยแม่ หนูไม่รู้จะทำยังงัย แม่มีวิธีแก้มั้ย
แม่ : กูนึกว่าเรื่องอะไร มึงก็ให้ผัวมึงใช้สบู่ล้างดีๆสิ
ลูกสาวคนโต : หนูให้ใช้แล้วก็ไม่ได้ผล ทำทุกอย่างแล้วก็ไม่ได้ผล เหม็นซิบหาย เวลาใกล้จมูกเหม็นทุกที จะอวก
แม่ : ขนาดนั้นเลยเหรอมึง
แล้ว...เสียงไม่คาดฝันเล็ดลอดออกมา ด้วยความมั่นใจ และเต็มไปด้วยพลัง ดังขึ้น
"พี่ก็ว่าไป ไม่เหม็นขนาดนั้นหรอก แต่หนูว่ามันเค็มมากกว่า เชื่อหนูสิ"
คุณคิดว่าเป็นเสียงใครครับ ถูกต้อง...เสียง
"ลูกสาวคนเล็ก" มันไม่ดมอย่างเดียว มันกินเลย ของผัวพี่มัน มันกินเลย
เรื่อง ไผเคยเห็นผี เอ๋าววว
กาละคั่ง1 มีเด็กน้อย ป1 พากันเว่ากันตอนยางเมียบ้านหลังจากโรงเรียนเลิกแล่ว
ในกุ่มนี้มีบักขี่คุยใญ่(บ่ยอมไผงายๆ)อยู่ 3 บัก มีบักแดง บักดำ กับบักจุ้ยหลังจากแต่ละบัก
ขี่คุยว่าเจ้าของมือแม่นหลาย สามาดยิงนก ยิงปา ยิงขี่กะปอม ยิงแง้ ยิงกับแก้ ขี่เกี้ยม ขี่สีก
ตั้งแต่**โตใญ่ลงมาน่อยๆ จนเหมอดแนวเว่าแล่ว แหล่วกะโดนเติบ
บักแดง กะเลยเว่าขึ่นว่า “ เอ๋าวว พวกมึงวามึงเก่ง มึงเคยเห็นผีหลอกคือกูบ๊อ!! กูเคยเห็นมาแล่ว
ตั้งแต่กูหัดคานใหม่ๆ ยามมื่อคืนมันยู่เทิงต้นไม่นากู มันแลบลิ่นยาวๆใส่กูกับแม่กู
แต่กูบ่ย่าน บ่เซียถามแมกูเบิ่งกะได้....”
บักดำ เหลียวเบิ่งหน่าบักแดงแบบเย้ยหยัน พร้อมกับเว่าสวนขึ่นทันทีว่า “กูกะเคยเห็นคือกั่น
เห็นก่อนมึงอีก เห็นตั้งแต่กูออกมาจากท่องแมกูไมไมพุ่นหนา ยามมื่อคืนมันแลบลิ่น
ตี่ตาเหลียกแดงๆใส่กู มันอยู่เทิงขื่อคัวบ้านพ่อลุงกู บ่อเซีย ถามพอกูกับพอลุงกูเบิ่งกะได้ ”
มาฮอดบักจุ้ย ฮื้อ..บาดหนิ.. ก้มหน้าคึดโดนเติบ (เฮ็ดจั่งได๋ สิสู่ 2 บักนี่ได้น่อ...) ตอนนั่น
หมู่ที่มานำกัน10กั่วคนพากันแนมเบิ่งหน่าบักจุ้ย เป็นตาเดียวเลย จักคาวเดียวมันกะเลยเว่าขึ่นว่า
“โอ๊ย...ปัดสาผีหลอก กูนี่ เคยเห็นตั้งแต่กูอยู่ในท้องแมกูพุ่นหน่ะ ”
เทิงบักแดง บักดำ แล่วกะมู่ที่ย่างมานำกัน พากันงึดหยุดจึกเลย!!แล่วกะถามขึ่นเกียบพร้อมๆกันเลย......วา
ปาอ๊าด..โท....บักฮาจุ้ย มึงยูในท่อง มึงสิเห็นได้จังได๋ “ เอ๋าววว ผีหลอกมันเป็นจั่งได๋เอ๋าวว” บักแดงส่อ
“โอ๊ยยย....กูเห็นเทิงยามมื่คืนเทิงยามมื่เวน เห็นดู๋โพด...เบิ่งมาเกียบปี....เห็นเกียบสูมื่อ มันมีตาเดียวตาตีบๆซาแหล่ว บ่อแลบลิ่น มันใส่หมวกบานๆแดงๆบ้าล่าเลย.. เทียวเข่าเทียวออกท่องแมกู มาจ๊ะๆๆๆหลอกกูดู๋โพด เห็นจนซิน กูเลยบ่ย่าน ”
“แต่ย่านตอนใด๋ฮู้บ่” บักจ้ยย่อนถามมู่ แล่วกะโม่ต่อ
“กูย่านบาดสุดท้าย บาดมันบ้วนถ่มน้ำลายใส่หน่ากูปิ๊ดๆๆๆจนกู่เปียกเหมิ๊ด
โคตร..แม.... มันนี้แหม.........ถ่าพวกมึงบ่เซียสูไปถามพอกับแมกูเบิ่งกะได้”
เรื่อง กุญแจ 3ดอกของผู้หญิง
เหตุเกิดขึ้นณ.ประตูสวรรค์มีหญิงสาว 3 คน กำลังยืนรอคำพิพากษาของ St. Peter อยู่
St. Peter : ข้ามีคำถามจะถามเจ้าง่ายๆเพื่อเป็นการเลือกว่าจะส่งเจ้าไปประตูไหน
St. Peter จึงถามสาวคนแรกว่า เจ้าจงบอกสถานภาพของเจ้าตอนก่อนแต่งงาน
และหลังแต่งงานซิ
สาวคนแรก : ก่อนแต่งงานข้ายังเป็นสาวบริสุทธิ์
หลังจากแต่งงานแล้วข้าก็ยังคงความบริสุทธิ์เอาไว้
St. Peter : เยี่ยมมาก เจ้าเป็นคนดีจริงๆ งั้นเจ้าเอากุญแจทองไป
หลังจากนั้น St. Peter ก็ถามสาวคนที่ 2 ด้วยคำถามเดียวกัน
สาวคนที่สองจึงตอบว่า : ก่อนแต่งงานข้ายังเป็นสาวบริสุทธิ์แต่หลังแต่งข้าไม่บริสุทธิ์แล้ว
St. Peter : เจ้าก็เป็นคนดีใช้ได้ที่รักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ก่อนแต่ง งั้นเอากุญแจเงินไป
ต่อมา St. Peter ก็ถามสาวคนสุดท้าย ด้วยคำถามเดียวกัน
สาวคนสุดท้าย : ข้าไม่เคยรักษาความบริสุทธิ์ไว้เลย ข้ามี sexกับผู้ชายทุกคนที่พบ
ทั้งก่อนแต่งและหลังแต่ง ทุกที่ทุกเวลาที่ทำได้
St. Peter : เยี่ยมมากเลยงั้นเจ้าเอากุญแจห้องข้าไป!!
เรื่อง รู้งี้ตูเงียบดีกว่า
เรื่องมีอยู่ว่า
มีผัวเมียคู่หนึ่งอยู่กันกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา จนมีลูกด้วยกัน 1 คน
แต่เมียสงสัยมาตลอดว่า ทำไมเวลาติ๊ดชึ่งกัน ถึงชอบปิดไฟทำ
เมียจึงวางแผนเพื่อรู้ความจริง แล้วเวลานั้นก็มาถึง จังหว่ะที่กำลังเข้าได้เข้าเข็ม
เมียได้เปิดไฟหัวเตียงพรวดขึ้นมาแล้วได้เห็นว่า ผัวกำลังใช้แตงกวาอยู่ในมือ
แล้วเมียก็โมโหขึ้นอย่างแรง
เมีย : นี่อย่าบอกนะว่าที่ผ่านมาแกใช้แตงกวากับชั้นมาตลอด
ผัว : ใช่ผมใช้มันมาตลอด
เมีย : คุณนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ เรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้รู้งี้ชั้้นไม่แต่งงานให้เสียเวลาหรอก
ผัว : ใช่ผมมันไม่ได้เรื่อง ผมมันบกพร่องไม่มีสมรรถภาพ ถ้าอย่างงั้น คุณลองอธิบายเรื่องลูกของเรามาซิหมายความว่างัย
เมีย : ..................
เรื่อง ล่อเอาเงินหลวงพ่อ
ณ หมู่บ้านชนบทในพากอีสานแห่งนึง
หลวงพ่อรูปนึงกะมาบิณฑบาตตอนเซ้าตามปกติหนั่นหละ บัดมาฮอดเฮีอนหลังนึง ปา
กด วามีใบบักขาม กับบักขามน้อยหล่นลงมาจากต้น สุยหัวโล้นหลวงพ่อปิ๊ด!ลงขี่ดิน
แป๊ะ! ด้วยควมสงสัยหลวงพ่อกะเลยหยุดจึ๊ก! แหงนหน้าขึ้นไปเบิ่ง ด้วยควมพิจารณา
แล้วกะเห็นดญ.นาง ลูกสาวหล่ายายจ่อยเจ้าของเฮีอน ใส่ซุดนักเรียนชั้นป1 กำลังปีนป่าย
เก็บบักขามน้อยอยู่ทางเทิงตามปะสาเด็กน้อยบ้านนอก
หลวงพ่อ: อีนาง มึงเฮดหยัง มึงคือขึ่นไปสูงแท้ บักขามเกียบตกถืกหัวหลวงพ่อหนิ
ดญ.นาง: อั่นหนูสิเก็บบักขามน้อยไปสู่หมู่กนอยู่โรงเรียนจ้า หลวงพ่อ
หลวงพ่อ: อ้าว...ลงมา ลงมา ลงมานี่ ลงมาเร็วๆ(หลวงพ่อควักมือเอิ้นดญ.นางลงมา พร้อมกับล้วง กระเป๋าย่ามหยิบแบ้งค์มาใบ1)
ดญ.นาง : แมนหยังจ้าหลวงพ่อ
หลวงพ่อ: เอ้านี่ เงิน 50บาท ไปซื่อกางเกงในใส่ซะเด้อ
ดญ.นางได้เงินแล้วดีใจอย่างแฮง ฟ่าวแลนจ้ำเอาเงินไปอ้างยายจ่อยผู้เป็นแม่ทันที
ยายจ่อย: โอ้.. ป๊าดดด มึงเฮดจังได๋หลวงพ่อจั่งให่เงินมึงหละ...อี้หล่า
ดญ.นางกะเริ่มเล่าให้แม่ฟังอย่างละเอียดถี่ยิบตั้งแต่ต้นจนจบ
ยายจ่อยคึดในใจ“โอ๊...อีนางเด็กน่อยๆได้ซำนี่ กูใหญ่กกั่วมัน คือสิได้เป็นร้อยพุ้นหละไป๋ มืออื่นเซ้านี่หละกู สิล่อเอาเงินหลวงพ่อให้เบิ่ง" มาตอนเซ้า ยายจ่อยกะนู่งสิ่นเขินๆซะแหล่ว จ้อนสิ่นขึ้นต้นบักขามตามแผนเป๊ะทุกขั้นตอน พอหลวงพ่อมาฮอดซือแล้ว
ยายจ่อยกะก้าวก้วงๆไปง่านั้น งานี่ ง่านั่นงานี่ ไปมา ให่หลวงพ่อแหงนขึ่นมาเบิ่งได้เต็มที่ ..... จักคาวเดียว......
หลวงพ่อ: ฮ่วย...อั่น นั่นยายจ่อยตี้ ลงมานี่ ลงมานี่
ยายจ่อย: เจ้าข้า หลวงพ่อ ผู้ข่าสิฟ้าวลงไปเดียวนี่หละ...หลวงพ่อ
ว่าแล้วยายจ่อยก็ฟ่าวปีนถอยหลังลงจากต้นบักขามอย่างกระตือรือร้น พนมมือขึ้นจ้อก้อพร้อมกับยิ้มอย่างเบิกบาน
หลวงพ่อ:(ล้วงมือออกจากย่าม โยนเงินลงขี่ดินให้ยายจ่อย พร้อมกับบอกว่า) “ เอ๊าววว นี่เงิ้น 2 บาท เอาไปซื่อมีดโกนเด้อ
ยายจ่อย: !!!!!!!!!!!
เรื่องซื้อหอย
วันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี เกือบทุกหลังคาเรือนต่างก็จัดงานฉลองส่งท้ายปีเก่า
ต้อนรับปีใหม่กัน
เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ก็เช่นกัน เป็นกลุ่มที่โปรดหอยแครงเป็นที่สุด ขาดไม่ได้
ถ้ามีงานกิน จึงแบ่งหน้าที่กันไปจ่ายตลาดสด เพื่อซื้ออาหารมาทำกินกัน
1 ในกลุ่ม ขณะที่กำลังเดินผ่านคุณน้าแม่ค้าเจ้า1 ที่วางขายบนพื้นฟุตบาธ
กาละมังวางเรียงเป็นแถว มีปลาดุก ปลาช่อน หอยแครง ปลาหมึก ปลานิล เป็นต้น
วันนี้แกสั่งหอยวางขายมากเป็นพิเศษ เลยต้องรีบอาบน้ำ ใส่ผ้าถุง ใส่เสื้อได้
รีบฮ้อไปนั่งขายตั้งแต่เช้าๆเลยลืมใส่(กกน)ไปอย่างนึง
ขณะที่แกนั่งยองๆบนเก้าอี้เล็กๆคอยเอามือปัดป้องปลาช่อน ปลานิลที่มันกระโดด
ออกจากกาละมังซ้าย- ขวาอยู่นั้นจนลืมสำรวมข้างล่าง เด็กหนุ่มก็ เดินผ่านมา
พิจารณาหอยแครงที่อยู่ กาละมังกลางพอดี แต่บังเอิญสายตามันดูลึกเลยเกินไปหน่อย
และด้วยความตื่นเต้น กับความน่าสนใจ ตามประสาเด้กที่อยากรู้ อยากเห็น แต่ว่า
กลัวเจ้าของหอยแครงจับได้.........
จึงทำเป็นเดินกลับไป กลับมาชำเรืองดูหอยอยู่ 6-7 เที่ยว จนจดจำฝังใจเข้าในสมอง
ฝ่ายแม่ค้า นึกรำคาญ จึงต่อว่าเด็กวัยรุ่น ว่า
แม่ค้า: “ นี่ ไอ้หำ แกเดินไปเดินมาตั้ง 8-9 รอบแล้ว จะซื้ออะไรก็ไม่ซื้อ น้าชักรำคาญหวะ ”
ฝ่ายวันรุ่น ตกตลึง ทั้งตกกะใจ ที่โดนแม่ค้าต่อว่า จึงรีบบอกแม่ค้าออกไปอย่างดังว่า
“ น้าขอซื้อhee4โลคั๊บ ”
แม่ค้า: โอ๊ะ ฮ่วยยยย... เลยรีบ hoop hoop hoop !!!!!!!! อิอิอิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น