วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

นิทานก้อม สนุกๆ

เรื่องไม่เหม็น.....แต่เค็มมากกว่า
บ้านหลังหนึ่งมีลูกสาวสวยอยู่ 2 คน คนโตอายุ 28 ปี แต่งงานมีครอบครัวแต่ยังไม่มีลูก และพาสามีมาอยู่ที่บ้านด้วย คนเล็กอายุ 25 ปี ยังไม่แต่งงาน โสดสวยเซ็กซ์ วันหนึ่งทั้งสามคนแม่-ลูก อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า ลูกสาวคมโตทำหน้าเคร่งเครียด ลุกลี้ ลุกลน แม่เห็นท่าทางเลยเอ่ยถามลูไปว่า
แม่ : มึงเป็นอะไรของมึง จะพูดจะทำอะไรก็ทำ กูเห็นแล้วอึดอัด
ลูกสาวคนโต : ก็...ก็...หนู...
แม่ : เฮ้ย!...จะพูดก็พูดกูหงุดหงิดแล้วนะมึง
ลูกสาวคนโต : ก็ผัวหนู...มัน...มัน...
แม่ : เอ้าอี...
ลูกสาวคนโต : ผัวหนู...หำเหม็น เหม็นมากเลยแม่ หนูไม่รู้จะทำยังงัย แม่มีวิธีแก้มั้ย
แม่ : กูนึกว่าเรื่องอะไร มึงก็ให้ผัวมึงใช้สบู่ล้างดีๆสิ
ลูกสาวคนโต : หนูให้ใช้แล้วก็ไม่ได้ผล ทำทุกอย่างแล้วก็ไม่ได้ผล เหม็นซิบหาย เวลาใกล้จมูกเหม็นทุกที จะอวก
แม่ : ขนาดนั้นเลยเหรอมึง

แล้ว...เสียงไม่คาดฝันเล็ดลอดออกมา ด้วยความมั่นใจ และเต็มไปด้วยพลัง ดังขึ้น

"พี่ก็ว่าไป ไม่เหม็นขนาดนั้นหรอก แต่หนูว่ามันเค็มมากกว่า เชื่อหนูสิ"

คุณคิดว่าเป็นเสียงใครครับ ถูกต้อง...เสียง
"ลูกสาวคนเล็ก" มันไม่ดมอย่างเดียว มันกินเลย ของผัวพี่มัน มันกินเลย


เรื่อง ไผเคยเห็นผี เอ๋าววว
กาละคั่ง1 มีเด็กน้อย ป1 พากันเว่ากันตอนยางเมียบ้านหลังจากโรงเรียนเลิกแล่ว
ในกุ่มนี้มีบักขี่คุยใญ่(บ่ยอมไผงายๆ)อยู่ 3 บัก มีบักแดง บักดำ กับบักจุ้ยหลังจากแต่ละบัก
ขี่คุยว่าเจ้าของมือแม่นหลาย สามาดยิงนก ยิงปา ยิงขี่กะปอม ยิงแง้ ยิงกับแก้ ขี่เกี้ยม ขี่สีก
ตั้งแต่**โตใญ่ลงมาน่อยๆ จนเหมอดแนวเว่าแล่ว แหล่วกะโดนเติบ
บักแดง กะเลยเว่าขึ่นว่า “ เอ๋าวว พวกมึงวามึงเก่ง มึงเคยเห็นผีหลอกคือกูบ๊อ!! กูเคยเห็นมาแล่ว
ตั้งแต่กูหัดคานใหม่ๆ ยามมื่อคืนมันยู่เทิงต้นไม่นากู มันแลบลิ่นยาวๆใส่กูกับแม่กู
แต่กูบ่ย่าน บ่เซียถามแมกูเบิ่งกะได้....”
บักดำ เหลียวเบิ่งหน่าบักแดงแบบเย้ยหยัน พร้อมกับเว่าสวนขึ่นทันทีว่า “กูกะเคยเห็นคือกั่น
เห็นก่อนมึงอีก เห็นตั้งแต่กูออกมาจากท่องแมกูไมไมพุ่นหนา ยามมื่อคืนมันแลบลิ่น
ตี่ตาเหลียกแดงๆใส่กู มันอยู่เทิงขื่อคัวบ้านพ่อลุงกู บ่อเซีย ถามพอกูกับพอลุงกูเบิ่งกะได้ ”
มาฮอดบักจุ้ย ฮื้อ..บาดหนิ.. ก้มหน้าคึดโดนเติบ (เฮ็ดจั่งได๋ สิสู่ 2 บักนี่ได้น่อ...) ตอนนั่น
หมู่ที่มานำกัน10กั่วคนพากันแนมเบิ่งหน่าบักจุ้ย เป็นตาเดียวเลย จักคาวเดียวมันกะเลยเว่าขึ่นว่า
“โอ๊ย...ปัดสาผีหลอก กูนี่ เคยเห็นตั้งแต่กูอยู่ในท้องแมกูพุ่นหน่ะ ”
เทิงบักแดง บักดำ แล่วกะมู่ที่ย่างมานำกัน พากันงึดหยุดจึกเลย!!แล่วกะถามขึ่นเกียบพร้อมๆกันเลย......วา
ปาอ๊าด..โท....บักฮาจุ้ย มึงยูในท่อง มึงสิเห็นได้จังได๋ “ เอ๋าววว ผีหลอกมันเป็นจั่งได๋เอ๋าวว” บักแดงส่อ
“โอ๊ยยย....กูเห็นเทิงยามมื่คืนเทิงยามมื่เวน เห็นดู๋โพด...เบิ่งมาเกียบปี....เห็นเกียบสูมื่อ มันมีตาเดียวตาตีบๆซาแหล่ว บ่อแลบลิ่น มันใส่หมวกบานๆแดงๆบ้าล่าเลย.. เทียวเข่าเทียวออกท่องแมกู มาจ๊ะๆๆๆหลอกกูดู๋โพด เห็นจนซิน กูเลยบ่ย่าน ”
“แต่ย่านตอนใด๋ฮู้บ่” บักจ้ยย่อนถามมู่ แล่วกะโม่ต่อ
“กูย่านบาดสุดท้าย บาดมันบ้วนถ่มน้ำลายใส่หน่ากูปิ๊ดๆๆๆจนกู่เปียกเหมิ๊ด
โคตร..แม.... มันนี้แหม.........ถ่าพวกมึงบ่เซียสูไปถามพอกับแมกูเบิ่งกะได้”

เรื่อง กุญแจ 3ดอกของผู้หญิง
เหตุเกิดขึ้นณ.ประตูสวรรค์มีหญิงสาว 3 คน กำลังยืนรอคำพิพากษาของ St. Peter อยู่
St. Peter : ข้ามีคำถามจะถามเจ้าง่ายๆเพื่อเป็นการเลือกว่าจะส่งเจ้าไปประตูไหน
St. Peter จึงถามสาวคนแรกว่า เจ้าจงบอกสถานภาพของเจ้าตอนก่อนแต่งงาน
และหลังแต่งงานซิ
สาวคนแรก : ก่อนแต่งงานข้ายังเป็นสาวบริสุทธิ์
หลังจากแต่งงานแล้วข้าก็ยังคงความบริสุทธิ์เอาไว้
St. Peter : เยี่ยมมาก เจ้าเป็นคนดีจริงๆ งั้นเจ้าเอากุญแจทองไป
หลังจากนั้น St. Peter ก็ถามสาวคนที่ 2 ด้วยคำถามเดียวกัน
สาวคนที่สองจึงตอบว่า : ก่อนแต่งงานข้ายังเป็นสาวบริสุทธิ์แต่หลังแต่งข้าไม่บริสุทธิ์แล้ว
St. Peter : เจ้าก็เป็นคนดีใช้ได้ที่รักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ก่อนแต่ง งั้นเอากุญแจเงินไป
ต่อมา St. Peter ก็ถามสาวคนสุดท้าย ด้วยคำถามเดียวกัน
สาวคนสุดท้าย : ข้าไม่เคยรักษาความบริสุทธิ์ไว้เลย ข้ามี sexกับผู้ชายทุกคนที่พบ
ทั้งก่อนแต่งและหลังแต่ง ทุกที่ทุกเวลาที่ทำได้
St. Peter : เยี่ยมมากเลยงั้นเจ้าเอากุญแจห้องข้าไป!!

เรื่อง รู้งี้ตูเงียบดีกว่า
เรื่องมีอยู่ว่า
มีผัวเมียคู่หนึ่งอยู่กันกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา จนมีลูกด้วยกัน 1 คน
แต่เมียสงสัยมาตลอดว่า ทำไมเวลาติ๊ดชึ่งกัน ถึงชอบปิดไฟทำ
เมียจึงวางแผนเพื่อรู้ความจริง แล้วเวลานั้นก็มาถึง จังหว่ะที่กำลังเข้าได้เข้าเข็ม
เมียได้เปิดไฟหัวเตียงพรวดขึ้นมาแล้วได้เห็นว่า ผัวกำลังใช้แตงกวาอยู่ในมือ
แล้วเมียก็โมโหขึ้นอย่างแรง
เมีย : นี่อย่าบอกนะว่าที่ผ่านมาแกใช้แตงกวากับชั้นมาตลอด
ผัว : ใช่ผมใช้มันมาตลอด
เมีย : คุณนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ เรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้รู้งี้ชั้้นไม่แต่งงานให้เสียเวลาหรอก
ผัว : ใช่ผมมันไม่ได้เรื่อง ผมมันบกพร่องไม่มีสมรรถภาพ ถ้าอย่างงั้น คุณลองอธิบายเรื่องลูกของเรามาซิหมายความว่างัย
เมีย : ..................

เรื่อง ล่อเอาเงินหลวงพ่อ
ณ หมู่บ้านชนบทในพากอีสานแห่งนึง
หลวงพ่อรูปนึงกะมาบิณฑบาตตอนเซ้าตามปกติหนั่นหละ บัดมาฮอดเฮีอนหลังนึง ปา
กด วามีใบบักขาม กับบักขามน้อยหล่นลงมาจากต้น สุยหัวโล้นหลวงพ่อปิ๊ด!ลงขี่ดิน
แป๊ะ! ด้วยควมสงสัยหลวงพ่อกะเลยหยุดจึ๊ก! แหงนหน้าขึ้นไปเบิ่ง ด้วยควมพิจารณา
แล้วกะเห็นดญ.นาง ลูกสาวหล่ายายจ่อยเจ้าของเฮีอน ใส่ซุดนักเรียนชั้นป1 กำลังปีนป่าย
เก็บบักขามน้อยอยู่ทางเทิงตามปะสาเด็กน้อยบ้านนอก
หลวงพ่อ: อีนาง มึงเฮดหยัง มึงคือขึ่นไปสูงแท้ บักขามเกียบตกถืกหัวหลวงพ่อหนิ
ดญ.นาง: อั่นหนูสิเก็บบักขามน้อยไปสู่หมู่กนอยู่โรงเรียนจ้า หลวงพ่อ
หลวงพ่อ: อ้าว...ลงมา ลงมา ลงมานี่ ลงมาเร็วๆ(หลวงพ่อควักมือเอิ้นดญ.นางลงมา พร้อมกับล้วง กระเป๋าย่ามหยิบแบ้งค์มาใบ1)
ดญ.นาง : แมนหยังจ้าหลวงพ่อ
หลวงพ่อ: เอ้านี่ เงิน 50บาท ไปซื่อกางเกงในใส่ซะเด้อ
ดญ.นางได้เงินแล้วดีใจอย่างแฮง ฟ่าวแลนจ้ำเอาเงินไปอ้างยายจ่อยผู้เป็นแม่ทันที
ยายจ่อย: โอ้.. ป๊าดดด มึงเฮดจังได๋หลวงพ่อจั่งให่เงินมึงหละ...อี้หล่า
ดญ.นางกะเริ่มเล่าให้แม่ฟังอย่างละเอียดถี่ยิบตั้งแต่ต้นจนจบ
ยายจ่อยคึดในใจ“โอ๊...อีนางเด็กน่อยๆได้ซำนี่ กูใหญ่กกั่วมัน คือสิได้เป็นร้อยพุ้นหละไป๋ มืออื่นเซ้านี่หละกู สิล่อเอาเงินหลวงพ่อให้เบิ่ง" มาตอนเซ้า ยายจ่อยกะนู่งสิ่นเขินๆซะแหล่ว จ้อนสิ่นขึ้นต้นบักขามตามแผนเป๊ะทุกขั้นตอน พอหลวงพ่อมาฮอดซือแล้ว
ยายจ่อยกะก้าวก้วงๆไปง่านั้น งานี่ ง่านั่นงานี่ ไปมา ให่หลวงพ่อแหงนขึ่นมาเบิ่งได้เต็มที่ ..... จักคาวเดียว......
หลวงพ่อ: ฮ่วย...อั่น นั่นยายจ่อยตี้ ลงมานี่ ลงมานี่
ยายจ่อย: เจ้าข้า หลวงพ่อ ผู้ข่าสิฟ้าวลงไปเดียวนี่หละ...หลวงพ่อ
ว่าแล้วยายจ่อยก็ฟ่าวปีนถอยหลังลงจากต้นบักขามอย่างกระตือรือร้น พนมมือขึ้นจ้อก้อพร้อมกับยิ้มอย่างเบิกบาน
หลวงพ่อ:(ล้วงมือออกจากย่าม โยนเงินลงขี่ดินให้ยายจ่อย พร้อมกับบอกว่า) “ เอ๊าววว นี่เงิ้น 2 บาท เอาไปซื่อมีดโกนเด้อ
ยายจ่อย: !!!!!!!!!!!

เรื่องซื้อหอย
วันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี เกือบทุกหลังคาเรือนต่างก็จัดงานฉลองส่งท้ายปีเก่า
ต้อนรับปีใหม่กัน
เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ก็เช่นกัน เป็นกลุ่มที่โปรดหอยแครงเป็นที่สุด ขาดไม่ได้
ถ้ามีงานกิน จึงแบ่งหน้าที่กันไปจ่ายตลาดสด เพื่อซื้ออาหารมาทำกินกัน
1 ในกลุ่ม ขณะที่กำลังเดินผ่านคุณน้าแม่ค้าเจ้า1 ที่วางขายบนพื้นฟุตบาธ
กาละมังวางเรียงเป็นแถว มีปลาดุก ปลาช่อน หอยแครง ปลาหมึก ปลานิล เป็นต้น
วันนี้แกสั่งหอยวางขายมากเป็นพิเศษ เลยต้องรีบอาบน้ำ ใส่ผ้าถุง ใส่เสื้อได้
รีบฮ้อไปนั่งขายตั้งแต่เช้าๆเลยลืมใส่(กกน)ไปอย่างนึง
ขณะที่แกนั่งยองๆบนเก้าอี้เล็กๆคอยเอามือปัดป้องปลาช่อน ปลานิลที่มันกระโดด
ออกจากกาละมังซ้าย- ขวาอยู่นั้นจนลืมสำรวมข้างล่าง เด็กหนุ่มก็ เดินผ่านมา
พิจารณาหอยแครงที่อยู่ กาละมังกลางพอดี แต่บังเอิญสายตามันดูลึกเลยเกินไปหน่อย
และด้วยความตื่นเต้น กับความน่าสนใจ ตามประสาเด้กที่อยากรู้ อยากเห็น แต่ว่า
กลัวเจ้าของหอยแครงจับได้.........
จึงทำเป็นเดินกลับไป กลับมาชำเรืองดูหอยอยู่ 6-7 เที่ยว จนจดจำฝังใจเข้าในสมอง
ฝ่ายแม่ค้า นึกรำคาญ จึงต่อว่าเด็กวัยรุ่น ว่า
แม่ค้า: “ นี่ ไอ้หำ แกเดินไปเดินมาตั้ง 8-9 รอบแล้ว จะซื้ออะไรก็ไม่ซื้อ น้าชักรำคาญหวะ ”
ฝ่ายวันรุ่น ตกตลึง ทั้งตกกะใจ ที่โดนแม่ค้าต่อว่า จึงรีบบอกแม่ค้าออกไปอย่างดังว่า
“ น้าขอซื้อhee4โลคั๊บ ”
แม่ค้า: โอ๊ะ ฮ่วยยยย... เลยรีบ hoop hoop hoop !!!!!!!! อิอิอิ


วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

นวัตกรรมการศึกษา

การเรียนแบบไม่แบ่งชั้น (Non-Graded Shoool)
เป็นการเรียนที่ตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ของการตระหนักในความแตกต่างของเด้กแต่ละคน การเรียนดังกล่าวต้องการให้เด็กเรียนอย่างสนุก ท้าทาย และให้กำลังใจ และเสริมสร้างต่อบรรยากาศของการเรียนอย่างมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียน

แบบเรียนสำเร็จรูป(Programmed Text Book)
เป็นสื่อการเรียน การสอนที่ส่งเสริมการเรียนด้วยตนเอง ด้วยความสามารถของแต่ละบุคคล ด้วยบทเรียนที่มีการกำหนด โดยที่ครูไม่ต้องช่วยเหลือหรือนั่งอะธิบายอยู่อย่างใกล้ชิด ครูมีหน้าที่ดูแลจัดหาบทเรียนให้ และให้คำปรึกษาเบื้องต้นเท่านั้น

เครื่องช่วยสอน (Teaching Machine)
เครื่องช่วยสอนนี้มีลักษณะเป็นเครื่องจักรกลที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยในการเรียนการสอน เช่น อาจจะมีการเสนอบทเรียน คำอธิบาย ตามมาด้วยคำถาม คำตอบ วิธีนี้ จะช่วยให้ผู้เรียน สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เครื่องจะช่วยตรวจคำตอบเพื่อวัดความเข้าใจของผู้เรียน

การสอนเป็นคณะ(Team Teaching)
การสอนเป็นคณะ ป็นการทำงานร่วมกันของครู ตั้งแต่สองคนขึ้นไปร่วมกันวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และรับผิดชอบในการเรียนการสอนนักเรียนกลุ่มเดียวกันครบทั้งกระบวนการ ผู้สอนอาจเลือกวิธีสอนใดๆก็ได้ตามความเหมาะสมกับเนื้อหาของการเรียน

การจัดโรงเรียนในโรงเรียน(School within School)
โรงเรียนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีการแบ่งเป็นขนาดเล็ก มีอิสระในระบบจัดการและแยกเป็นนิติบุคคล ในแต่ละโรงเรียนจะมีการบริหารงบประมาณ และการวางแผนโปรแกรมต่างๆ เป็นของตนเอง แต่การดำเนินการด้านความปลอดภัย และอาคารสถานที่ยังคงประสานกับโรงเรียนขนาดใหญ่และใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกัน รูปแบบของการจัดโรงเรียน รูปแบบของการจัดโรงเรียนภายในโรงเรียนเป็นลักษณะของการแสวงหาผลประโยชน์และความสำเร็จร่วมกัน ของโรงเรียนทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(Computer Assisted Instruction )
บทเรียนสำเร็จรูปที่สร้างขึ้นในลักษณะซอฟแวร์สำเร็จรูป นำไปสอน เนื้อหาใหม่โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการเรียนการสอนบทเรียนนำเสนอบทเรียน ผู้เรียนสามารถเรียนด้วยตนเอง ได้ตามระดับความสามารถของตน ในบทเรียนมีแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน จุดเด่นที่สำคัญ คือ การนำเสนอเนื้อหาในลักษณะหลายสื่อ ได้แก่ประเภท ข้อความ รูปภาพ อภาพเคลื้อนไหว วิดีโอ และเสียง โดยที่ผู้เรียนจะมีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์กับบทเรียนโดยผ่านเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ได้ตลอดเวลา

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ดอกไม้ประจำวันเกิด



ดอกไม้ประจำวันเกิด


วันนี้เรามีดอกไม้ ประจำวันเกิดมาให้อ่านกันค่ะ … ใครเกิดวันไหน ตรงกับต้นไม้ หรือดอกไม้อะไรก็อย่าลืมไปหามาปลูกนะคะ





เกิดวันอาทิตย์

ต้นไม้ประจำวันเกิด เป็นต้นพวงแสด ต้นพุทธรักษา ต้นธรรมรักษา และต้นเยอร์บีร่าที่มีดอกสีส้ม

ส่วนดอกไม้ประจำวันเกิด เป็นดอกกุหลาบสีส้ม จะถูกโฉลกกับเธอที่เกิดวันอาทิตย์

คนเกิดวันนี้มีนิสัยทะเยอทะยานและกระตือรือล้น เธอและดอกไม้มีความหมายถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ ดอกไม้อีกชนิดสำหรับผู้เกิดวันนี้คือ ดอกทานตะวัน อันเป็นสัญลักษณ์คู่กับพระอาทิตย์เสมอ บอกถึงตัวเธอที่เชื่อมั่น หัวสูง ถือตัว และหยิ่งในศักดิ์ศรีด้วย






เกิดวันจันทร์
ต้นไม้ประจำวันเกิดของเธอคือ ต้นมะลิ ต้นแก้ว ต้นพุด ต้นจำปี ยิ่งถ้าปลูกแล้วออกดอกหอม เธอจะยิ่งโชคดี

ดอกไม้ประจำวันเกิด คือดอกมะลิขาวสะอาด หมายถึงตัวเธอที่มีความนุ่มนวลอ่อนโยน เรียบร้อย ส่วนดอกไม้อีกชนิดคือ ดอกกุหลาบขาว หมายถึงความรักที่อ่อนโยนและไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนเพราะคนวันจันทร์มักอ่อนไหวง่าย โรแมนติก และช่างฝัน





เกิดวันอังคาร
ต้นไม้ที่แสนดีของเธอคือ ต้นชัยพฤกษ์ ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ต้นยี่โถ ออกดอกสีชมพู ต้นเข็มออกดอกสีชมพู ถ้าต้นไม้ของเธอออกดอกมากๆ บอกได้ว่าเธอกำลังมีความสุข

ดอกไม้ประจำวันเกิดของเธอคือ ดอกกล้วยไม้ โดยเฉพาะที่ออกดอกสีชมพู เพราะมีความหมายถึงความรักที่ร้อนรุ่ม หวือหวา วูบวาบตามอารมณ์ของคนที่เกิดวันนี้





เกิดวันพุธ

ต้นไม้ประจำตัวคนที่เกิดวันพุธนั้นพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่เป็นต้นไม้ใบเขียว โดยเฉพาะต้นกระดังงา ต้นสนฉัตร ดังนั้นเธอควรปลูกต้นไม้เยอะๆ ถึงจะโชคดี ต้นไม้เหล่านั้นจะช่วยปกป้องคุ้มครองเธอได้ คือ ดอกบัว หมายถึงจิตใจอันสงบ เพราะคนที่เกิดวันพุธมักชอบเป็นนักการทูตและรักสันติภาพ

ดอกไม้ประจำวันเกิด คือดอกบัว ซึ่งคนที่เกิดวันพุธมักจะเป็นนักคำนวณ (เงิน) สีเหลืองอร่ามราวกับทองของดอกไม้ชนิดนี้ หมายถึงรักของเธอต้องมาพร้อมเงิน





เกิดวันพฤหัสบดี

ต้นไม้ประจำตัวคือ ต้นโสน ต้นราชพฤกษ์ และต้นบานบุรี หากมีต้นไม้เหล่านี้อยู่ในบ้านจะช่วยคุ้มครองดูแลเธอ

ดอกไม้ประจำวันเกิดของเธอคือ ดอกกุหลาบสีเหลือง หมายถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความรัก รักซ้อนซ่อนใจ เพราะคนที่เกิดวันนี้เป็นคนรักง่ายหน่ายเร็ว เจ้าชู้เล็กๆ ดอกไม้อีกชนิดหนึ่งคือดอกคาร์เนชั่นสีชมพู หมายถึงรักของเธอที่อ่อนโยนและอ่อนหวาน เธอที่เกิดวันนี้ จริงๆ แล้วเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและมีอารมณ์ขัน น่ารักเหมือนดอกไม้ของเธอนั่นแหละ





เกิดวันศุกร์
ต้นไม้ที่แสนดีของคนที่วันศุกร์คือ ต้นพยับหมอก ต้นแส ต้นอัญชัน

ส่วนดอกไม้ของเธอคือ กุหลาบทุกสี เพราะคนที่เกิดวันศุกร์มักเป็นนักรักที่ยิ่งใหญ่มีเสน่ห์ล้นเหลือ หรือจะเป็นดอกไม้เจ้าเสน่ห์ที่มีความหมายหวานแหววแบบดอกไวโอเลตว่า "ฉันรักเธอแล้ว หากรักฉันก็บอกกันบ้างนะ" คนเกิดวันศุกร์บางอารมณ์ก็โลเล จึงได้ดอกลาเวนเดอร์ที่มีความหมายถึงรักที่สับสน ไม่แน่นอน ไปครองอีกดอกหนึ่ง





เกิดวันเสาร์
จะมีต้นไม้พวกต้นกัลปังหา ต้นพวงคราม ต้นอินทนิล เป็นต้นไม้ประจำวันเกิด

ดอกไม้ประจำวันเกิดคือ ดอกลิลลี่ อันหมายถึงรักครั้งแรก รักที่บริสุทธิ์เพราะคนที่เกิดวันเสาร์เป็นคนจริงจังและซีเรียส จึงรักใครยากหน่อย ทว่าดอกลิลลี่เป็นดอกที่กระทบใจคนขี้เหงาวันเสาร์ได้ดีทีเดียว







ดอกกล้วยไม้











ดอกกล้วยไม้เป็นดอกสมบูรณ์เพศ คือ เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอก เดียวกัน ดอกกล้วยไม้ประกอบด้วย กลีบดอกวงนอก 3 กลีบ และกลีบดอกวงใน 3 กลีบ ลักษณะของกลีบดอกกล้วยไม้จะแตกต่างกันไปตามชนิดของกล้วยไม้ กล้วยไม้บางชนิดอาจมีกลีบดอกขนาดใหญ่ สีสวย แต่บางชนิดมีกลีบแคบ สีไม่สวยส่วนของกลีบวงนอกหรือกลีบนอกนั้นจะเป็นส่วน ที่หุ้มดอกในระยะดอกตูม กลีบนอกมักจะมีลักษณะคล้ายกันทั้ง 3 กลีบ ยกเว้นพวกรองเท้านารี ที่กลีบนอกกลีบล่างจะมีลักษณะต่างจากกลีบบน สำหรับกลีบในนั้นจะมีลักษณะต่างกันโดยกลีบ ในคู่หนึ่งจะมีลักษณะเหมือนกัน ส่วนกลีบในกลีบที่สามจะมีลักษณะแตกต่างไปเรียกว่าปาก หรือกระเป๋า(Lip)ซึ่งมีประโยชน์สำหรับล่อแมลงเพื่อช่วยผสมพันธุ์ส่วนประกอบของดอกมีส่วนของก้านเกสรตัวผู้ ก้านเกสรตัวเมียและยอดเกสรตัวเมียรวมกันเป็นอวัยวะเดียวกันยื่นออกมาตรงใจกลางของดอก มีอับเกสรตัวผู้อยู่ที่ส่วนปลายเรียกว่า เส้าเกสร (Staminal column) ยกเว้นพวกรองเท้านารี และกล้วยไม้บางสกุลที่อับเกสรตัวผู้ อยู่ ด้านข้างของเส้าเกสร 2 ข้าง เกสรตัวผู้ไม่มีลักษณะ เป็นละอองเรณูแบบพืชอื่นๆ เกสรตัวผู้ประกอบด้วยอับเรณูและละอองเกสรตัวผู้หรือเรณู เรณูของดอกกล้วยไม้มีลักษณะแตกต่างกันคือละอองเรณูอาจจะรวมกลุ่มติดกันคล้ายขี้ผึ้งอ่อน ๆ หรือละอองเรณูเกาะตัวกันเป็นก้อนแข็งเป็นกลุ่มเรณูเรียกว่าพอลลิเนีย (pollinia) ในแต่ละอับ เรณูมีฝาปิดสนิท อาจมี 2,4 หรือ 8 อันแล้วแต่ชนิดของกล้วยไม้ยอดเกสรตัวเมียจะอยู่ใต้อับเรณู มีลักษณะเป็นแอ่งตื้น ๆภายในมีน้ำเมือกเหนียว (ยกเว้นรองเท้านารีที่มีลักษณะต่างออกไป) น้ำเมือกนี้จะมีไว้เพื่อช่วยในการผสมพันธุ์ สำหรับยึดเกสรตัวผู้ที่ตกลงไปในแอ่ง การผสมเกสรส่วนใหญ่ต้องอาศัยแมลงเข้าช่วสำหรับรังไข่อยู่ตรงส่วนของก้านดอก ภายในรังไข่จะยังไม่มีการพัฒนาเป็นไข่อ่อนเมื่อมีการผสมเกสรเกิดขึ้นแล้วจึงจะเกิดไข่อ่อน ขึ้นมาภายในรังไข่รังไข่เพียงช่อเดียวแต่มีเมล็ดเกาะที่ผนัง 3 แห่ง เมื่อไข่ได้รับการผสมจาก เกสรตัวผู้จะเจริญไปเป็นเมล็ด